คู่มือดับทุกข์ 9 ประการ สำหรับคนที่มีความทุกข์

PURIFILM สร้างแรงบันดาลใจ ให้คติธรรม นำพลังสร้างชีวิต



สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม คลิบนี้นะครับผมจะมาพูดคุย ในเรื่องของคู่มือดับทุกข์ 9 ประการ สำหรับคนที่มีความทุกข์ เพื่อจะได้รู้ทันในสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง และจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ซึ่งคู่มือดับทุกข์ทั้ง 9 ประการนั้น มีดังต่อไปนี้ครับ

1. เราต้องเปิดใจให้กว้าง และยอมรับในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ตามเหตุปัจจัยของมัน อย่างเช่น เรื่องไม่ดี ที่ไม่น่าปราถนา มันก็อาจจะเกิดขึ้นกับเรา ได้ตามเหตุปัจจัยของมัน เพราะทุกสิ่งเป็นของไม่เที่ยงแท้แน่นอน บางทีมันก็ดี บางทีมันก็ไม่ดี มันเป็นอยู่อย่างนี้เอง เรื่องไม่ดีที่ไม่น่าปราถนานั้น แท้จริงแล้ว มันเป็นสิ่งที่มีอยู่คู่โลกใบนี้มานานแล้ว ทุกคนที่เกิดมาในโลก ก็ล้วนแต่จะต้องประสบพบเจอกับมันทั้งสิ้น แม้ว่าอาจจะมีลักษณะที่แตกต่างกันบ้างก็ตาม เรื่องไม่ดีไม่น่าปราถนานั้น ไม่ใช่เกิดมาจากอำนาจของเทวดาฟ้าดิน แต่มันเป็นของธรรมดา ที่มีอยู่ในโลกอย่างนี้เอง มันเป็นไปตามกรรม



2. จงเตือนตัวเองว่า ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน มันจะเกิดเรื่องดี ที่ถูกใจเราเมื่อไหร่ก็ได้ หรือมันจะเกิดเรื่องไม่ดี และขัดใจเราเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะสิ่งทั้งหลายมันไม่เที่ยงแท้ ดังนั้น เราจึงต้องทำจิต ให้พร้อมรับสถานการณ์เหล่านั้นอยู่เสมอ โดยไม่ต้องดีใจ หรือเสียใจ ไปกับเรื่องเหล่านั้น จงพยายาม ทำจิตให้ปล่อยวางอยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่า เราจะต้องพยายามรักษาจิตให้สะอาด อย่าคิดอะไรให้ตัวเองเป็นทุกข์ อย่าอยากได้ อยากเป็นอะไร จนเกินพอดี อย่าถือตัว อย่าถือทิฏฐิมานะ หมั่นรักษาจิตให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ จงน้อมจิตให้มองเห็นสภาวะที่สงบ และสะอาดอยู่เสมอ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้จิตของเรา สงบเย็น ผ่องใส และไม่เดือดร้อนได้เป็นอย่างดี

3. จงอย่าเชื่อถือสิ่งงมงายไร้เหตุผล อย่างเช่น เมื่อมีความทุกข์ หรือเกิดเรื่องไม่ดี ไม่น่าปราถนาขึ้น ก็ไปบนบานเจ้าที่เจ้าทาง หรือไปไหว้จอมปลวก ไหว้ต้นไม้ใหญ่ เป็นต้น เพียงปรารถนา จะให้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่ตัวเองหลงผิด คิดว่ามีอยู่ในสถานที่เหล่านั้น มาช่วยให้พ้นจากความทุกข์ นี่คือความงมงาย เราควรจะละเลิกเสีย เพราะมันจะทำให้เรา สิ้นเปลืองทรัพย์สิน และเวลา โดยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย ซึ่งพระพุทธเจ้า ท่านสอนให้เรา สร้างแต่กรรมดี คิดดี พูดดี และทำดี

4. เราต้องรู้ว่า คนทุกคนในโลกนี้ ต่างก็มีกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ และความหลง ดังนั้น บางทีเราก็อาจจะคิดถูก และทำถูก แต่บางทีก็อาจจะคิดผิดและทำผิด หรือบางทีอาจจะโง่ บางทีอาจจะฉลาด เพราะฉะนั้น เราจะต้องให้อภัยเขา ค่อยๆ พูดกับเขา ไม่ด่าว่ารุนแรงกับเขา เราจะต้องใช้ปัญญาของเรา เข้าไปสอนเขา ไปชักจูงเขาให้เดินในทางที่ถูก นี่คือหน้าที่ ของผู้มีปัญญา ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนโง่ ที่มีอยู่ในโลกนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งผลที่จะได้รับก็คือ เราจะเป็นคนที่มีจิตใจเยือกเย็น และน่าเคารพของคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราจะไม่เป็นทุกข์ร้อน แม้ว่าจะพบเห็น หรือเกี่ยวข้อง กับคนมากมายหลายประเภท ในโลกนี้

5. เราต้องรู้จักธรรมะข้อที่ว่า อนิจจัง ซึ่งแปลว่า ความไม่เที่ยง สิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยปรุงแต่งทั้งหลายในโลกนี้ ล้วนแต่เป็นของไม่เที่ยงทั้งสิ้น อย่างเช่น ความเปลี่ยนแปลงจากดี ไปเป็นเลว หรือเปลี่ยนจากความสมหวัง ไปเป็นความผิดหวัง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ก็ล้วนแต่เป็น เพราะความไม่เที่ยงแท้ของมันนั่นเอง ดังนั้น จงอย่าเป็นทุกข์เศร้าโศก ไปกับเรื่อง ดี ร้าย ได้ เสีย ที่เกิดขึ้นกับเรา แต่จงรู้จักมันว่า มันเป็นอย่างนี้เอง มันไม่เที่ยงแท้แน่นอนสักสิ่งเดียว ถ้าเรารู้อย่างนี้ด้วยความสงบของสมาธิ จิตของเรา ก็จะไม่เป็นทุกข์

6. เราต้องรู้จักธรรมะข้อที่ว่า ทุกขัง ซึ่งแปลว่า ความทุกข์ และจงจำเอาไว้ว่า ชีวิตของเราทุกคนนั้น ล้วนแล้วแต่มีความทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น ลักษณะของความทุกข์นั้นก็ได้แก่ ความเกิด ความแก่ ความตาย ความเศร้าโศก ความอาลัยอาวรณ์ ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ความที่ได้รับสิ่งที่ไม่น่าปราถนา ความพลัดพรากจากคนรัก หรือของรัก และความผิดหวัง สิ่งเหล่านี้ คือความทุกข์ ที่เราทุกคนในโลกนี้ กำลังประสบพบเจออยู่

7. เราต้องรู้จักธรรมะข้อที่ว่า อนัตตา ซึ่งแปลว่า ความไม่ใช่ตัวเราหรือของเรา หรือความปราศจากแก่นสารที่ยั่งยืนถาวร ซึ่งข้อที่ว่า สิ่งทั้งหลาย ไม่มีตัวตนแก่นสารที่ถาวรนั้น หมายความว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น มันจะมีอยู่ในโลกนี้ เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง จะนานหรือไม่นาน ก็แล้วแต่เหตุการณ์ของมันเท่านั้นเอง มันไม่มีสิ่งใด จะคงอยู่ในโลกนี้ได้ตลอดไป ดังนั้น ตัวตนที่เป็นของยั่งยืนถาวรของมันจึงไม่มี ซึ่งสิ่งเหล่านั้น มันหมายรวมทั้งร่างกาย และจิตใจของเราทุกคนด้วย

8. จงประพฤติศีล 5 ให้สมบูรณ์ ด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ขโมยสิ่งของๆ คนอื่น ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่โกหกหลอกลวงใคร และไม่ดื่ม หรือเสพสิ่งเสพติด ของมึนเมาทุกชนิด และแบ่งเวลาในแต่ละวันให้พอเหมาะพอดี แก่สภาพชีวิตของตัวเอง มีเวลาทำงานเพียงพอ มีเวลาพักผ่อนในครอบครัวตามสมควร และมีเวลาฝึกสมาธิ เพื่อทำจิตให้สงบ

9. หมั่นยกเอาปัญหาที่เกิดขึ้น มาพิจารณาว่า ปัญหานี้มันมาจากไหน มันเกิดขึ้นเพราะอะไร และเพราะอะไร เราจึงหนักใจกับมัน ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถแก้ไขมันได้ ทำอย่างไรเราจึงจะเบาใจ ไม่เป็นทุกข์กับมัน และจงจำไว้ว่า ปัญหาอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเรา ก็คือความทุกข์ ความกลัดกลุ้มใจ และความทุกข์จะไม่หมดไป เพราะการไหว้วอน บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่ความทุกข์มันจะหมดไปจากใจของเรา ถ้าเรามีปัญญารู้เท่าทันตามความเป็นจริง ในสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ครับ

ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิดในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สิริมงคล 8 ประการ เสริมบุญบารมี ให้ชีวิตรุ่งเรืองตลอดไป

ขันธ์ 5 คืออะไร ทำไมคนเป็นโรคซึมเศร้าต้องเรียนรู้ขันธ์ 5

วิธีอ่านใจคน ศาสตร์เรียนรู้จุดอ่อน ด้วยจริต 6 ประการ

มงคลชีวิต 4 ประการ หนทางสู่ความสำเร็จ

ฆราวาสธรรม 4 ประการ ธรรมะที่นำพาชีวิตให้ร่ำรวย