ยิ่งปล่อยวาง ยิ่งมีความสุข เคล็บลับเอาชนะอุปสรรคต่างๆ

PURIFILM สร้างแรงบันดาลใจ ให้คติธรรม นำพลังสร้างชีวิต



สวัสดีครับคุณผู้ชมคุณผู้ฟังทุกท่าน ที่ติดตามรับชมภูริฟิล์ม คลิบนี้นะครับผมจะมาพูดคุย ในเรื่องยิ่งปล่อยวาง ยิ่งมีความสุข ซึ่งเป็นเคล็บลับ ในการเอาชนะกับความทุกข์ ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า “คนที่อ่อนแอ จะไม่สามารถให้อภัยกับใครได้ เพราะการให้อภัยนั้น ถือว่าเป็นความเข้มแข็งที่แท้จริง” ท่านว่า หากทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่เหนือการควบคุม ก็ให้ลองปรับใจตัวเองให้วางลงบ้าง อย่าไปวุ่นวายตามเหตุการณ์ภายนอก ให้มันมากเกินนัก เพราะแม้แต่ชีวิตของเราในบางครั้ง มันก็อยู่ เหนือการควบคุม อย่างเช่น เราอยากจะมีความสุข แต่มันก็กลายเป็นความทุกข์ หรือเราอยากจะหายจากความทุกข์ แต่กลับมีความทุกข์มากขึ้นไปอีก ฉะนั้น เราลองคิดใหม่ว่า เดี๋ยวทุกอย่าง มันก็ผ่านไป เราพยายามรักษาใจตัวเอง ให้เป็นปกติก็พอแล้ว เพราะหากเราหยุดความโกรธได้เมื่อไร ชีวิตเราก็จะมีความสุข ครูบาอาจารย์ท่านได้แนะนำ เกี่ยวกับวิธีการปล่อยวางแบบง่ายๆ ที่สามารถจะฝึกทำด้วยตัวเอง เพื่อให้ชีวิตมีความสุข ซึ่งเคล็ดลับมีดังต่อไปนี้



ข้อที่ 1. อย่าไปคิดแก้แค้นคนอื่นเป็นอันขาด แต่ถ้าหากจำเป็น ที่จะต้องแก้แค้นให้ในชาตินี้ ท่านว่า การแก้แค้นที่ดีที่สุด นั่นก็คือ "การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จ เพราะถ้าเราสามารถฝึกตนเองให้คิดดี และทำดีได้ตลอด มันจะส่งให้เรา มีพลังดึงดูด คนที่คิดดี ทำดี เข้ามาในชีวิต ดังคำพูดที่ว่า เราไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ หากเราหมกมุ่นอยู่กับความคิด และความรู้สึกในด้านลบ” ซึ่งวิธีที่ ที่จะช่วยให้เรา มีความคิดด้านบวกได้ นั่นก็คือ การฝึกท่องคำว่า “ความรัก การให้อภัย การปล่อยวาง และสันติสุข” ไว้ตลอดเวลา

ข้อที่ 2. แสวงหาความสุขจากภายใน จงอย่าไปแสวงหาความสุข จากภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะมันไม่ยั่งยืน เราต้องพยายามให้ความสำคัญ กับความรู้สึก และซาบซึ้ง ต่อสิ่งดีๆ ภายในจิตใจ ที่เปล่งประกายออกมา ท่านว่า ถ้าเราปล่อยให้ความรู้สึกนึกคิด และความเป็นตัวตนของเราเอง ผันแปรไปตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เราไม่อาจจะคาดเดาได้ รับรองว่า ความสุขในชีวิตของเรา ก็จะขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา เพราะความสุขที่แท้จริงนั้น มันจะเป็นความสุขที่เกิดขึ้นจากใจ ที่เบิกบานปีติยินดี ดังนั้น แทนที่เราจะไปหลงติด อยู่กับสิ่งแย่ๆ ที่ทำให้เราเกิดอารมณ์ขุ่นมัว เราก็ควรหันมา นึกถึงแต่เรื่องดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ท่านว่าวิธีนี้ จะช่วยทำให้เรา ผ่านพ้นไปได้ อย่างมีความสุข

ข้อที่ 3. มองอุปสรรคและปัญหาต่างๆ คือ บททดสอบของชีวิต มีคำสอนเอาไว้ว่า อุปสรรคความทุกข์ยากบางอย่าง ที่เรากำลังประสบพบเจออยู่นั้น มันเกิดเพราะกรรมเก่า และยิ่งเราลำบาก มีความทุกข์มากเท่าไหร่ นั่นแสดงว่า เรากำลังชดใช้กรรมเก่าให้หมดไป ท่านว่า ถึงแม้หลายๆ คน อาจจะเชื่อในเรื่องนี้ก็ตาม แต่มันก็จะทำให้เรามีกำลังใจ ที่จะปรับปรุงแก้ไข กับเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งเป็นเสมือนการทดสอบ ความเป็นตัวตนของเราเอง ฉะนั้น หากเรารู้สึกว่า เหมือนกำลังถูกทดสอบอยู่ ก็จงถามตัวเองว่า ในตอนนี้ เรากำลังถูกทดสอบในเรื่องอะไร ถูกทดสอบความอดทนอดกลั้น ถูกทดสอบความเห็นอกเห็นใจคนอื่น หรือเราถูกทดสอบ ในการรู้จักให้อภัยหรือไม่ ท่านว่า จงใช้โอกาสนี้ รีบปรับปรุงแก้ไขตัวเอง โดยเร็วที่สุด

ข้อที่ 4. มีทัศนะมุมมองที่ดี อย่างเช่น หากเรากำลังเผชิญ กับอุปสรรคความยากลำบากอยู่ ก็ให้เตือนตัวเองว่า อุปสรรคความทุกข์ยากเหล่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเรา มันเป็นแค่เพียง เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเท่านั้น เดียวมันก็จะผ่านพ้นไปได้ ฉะนั้น จงตั้งสติให้มั่น อย่าปล่อยให้ความทุกข์ยากเหล่านั้น มาบั่นทอนพลังในตัวเรา เพราะถ้าเราเอาชนะมันได้เมื่อไร สิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้น ดังคำโบราณที่ว่า “ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน” ซึ่งหมายความว่า ไม่มีใครจะมีความสุขได้ตลอด และก็ไม่มีใครจะมีความทุกข์ได้ตลอดไป

ข้อที่ 5. เรียนรู้จากบทเรียน และหมั่นพัฒนาจิตใจ ให้เป็นดั่ง “ผู้เรียนรู้ มิใช่เหยื่อ” อันหมายถึง การนำประสบการณ์ของตนเอง หรือของผู้อื่นมาปรับใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเอง ตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ฉะนั้น จงให้คำมั่นกับตัวเองว่า เราจะควบคุมอารมณ์ให้ได้ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ ที่ทำให้เราอารมณ์เสีย และพยายามหลีกเลี่ยง อย่าให้ตัวเองไปตกอยู่ ในสภาวะเช่นนั้นอีก ในอนาคต

ข้อที่ 6 . เลิกเจ้ากี้เจ้าการ และเลิกกังวลในสิ่งที่คนอื่นคิด เพราะบางครั้ง เมื่อเรา อยากให้สิ่งที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จ เราก็อาจจะเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ หรือออกคำสั่งมากเกินไป จนกลายเป็นคนจอมบงการโดยไม่รู้ตัว ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ก็ยิ่งจะทำให้ทุกอย่างล้มเหลว และเมื่อเรา ไม่ได้รับความร่วมมือ เท่าที่ควร เราก็จะรู้สึกเครียด ดังนั้น เราควรจะปล่อย ให้เป็นไป ในทางที่ควรจะเป็น และยอมมัน อย่างไม่มีเงื่อนไข ถึงแม้ว่า อาจจะดูเหมือน เราท้อ และยอมแพ้ แต่จริงๆ แล้วท่านว่า นี่คือทางออกที่ดีที่สุด และยังทำให้เรา รู้สึกสบายใจขึ้นอีกด้วย เพราะในโลกนี้ ไม่มีใคร ที่จะทำทุกสิ่ง ให้พอใจทุกคน ฉะนั้น อย่าไปใส่ใจ ในสิ่งที่คนอื่นคิด เพราะถ้าเรายิ่งคิด และยิ่งแคร์ ในสิ่งที่คนอื่นคิด มากเท่าไร มันก็จะยิ่ง ทำให้เราเครียดมากขึ้นเท่านั้น และทำให้เรา ไม่สามารถ จะทำในสิ่งที่ต้องการได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการเก็บคำพูด หรือสิ่งที่คนอื่นคิด มาเป็นอารมณ์ มันก็อาจจะทำให้ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ล้มเหลวก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นท่านว่า จงใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็น มากกว่าจะใช้ชีวิต ตามความคิดของคนอื่น

ข้อที่ 7. ลืมอดีตที่เลวร้าย และจงอย่าเสียเวลากับคนผิดคน เพราะบางครั้ง เราอาจจะเสียเวลาหลายปี ให้กับคนบางคน ที่ไม่เคยให้ความสำคัญ หรือให้ความเคารพกับเราเลย จนทำให้เรามีบาดแผล และมีความทรงจำที่เจ็บปวด หรือทำให้ชีวิตของเราไม่ก้าวหน้า แถมจมปลัก อยู่กับความโศกเศร้า และความเครียด ดังนั้น หากเรารู้สึกว่ามีคน กำลังทำให้เราเสียโอกาส และเสียเวลา ไปอย่างเปล่าประโยชน์ เราก็ควรจะปล่อยวาง ทิ้งเอาไว้ข้างหลัง แล้วก็เดินออกมา พยายามอย่าไปนึกถึงคนเหล่านั้น จงเอาเวลา ที่เราเคยใช้กับคนผิดคน หันไปทำอะไร ที่มันสร้างสรรค์ และทำให้ตัวเองดีขึ้นจะดีกว่า แต่หากสิ่งเหล่านั้น คือความผิดพลาด ที่เราไม่อาจจะให้อภัยตัวเองได้ เราก็ควรจะเปลี่ยนความคิดใหม่ และให้อภัยกับตัวเองเสีย เพื่อจะได้ ลุกขึ้นเดินต่อไปอีกครั้ง

ข้อที่ 8. หัดเปิดใจให้กว้าง และอย่าปล่อย ให้ความขัดแย้งบานปลาย เพราะปัจจุบันนี้อาจจะมีหลายคน ที่ตัดสินคนอื่น เพียงเพราะในสิ่งที่เห็น ไม่ใช่ตัดสินในสิ่งที่เป็น จึงทำให้หลายๆ คน ต้องพลาดในสิ่งดีๆ โดยไม่รู้ตัว แต่เราลองเปิดใจ แล้วมองให้กว้างขึ้น และเลิกตัดสินคนอื่นจากภายนอก พยายามมองลงไป ในจิตใจของพวกเขา เราก็อาจจะพบว่า ทั้งผู้คน และเหตุการณ์ที่ดูเลวร้าย มันก็อาจจะดีกว่าที่เราคิด และในบางครั้ง ความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะบานปลายจนถึงขั้นใหญ่โตได้ ท่านว่า ทางที่ดีที่สุด ก็คือ หากเราและคนอื่น หรือคนรัก เกิดการเข้าใจผิดกันเพียงเล็กน้อย ก็อย่าให้สิ่งเหล่านั้นมาบังตา จนทำให้เรามองข้ามสิ่งดีๆ ที่เคยทำร่วมกันมา เพราะสิ่งดีๆ ที่เคยทำร่วมกันนั้น มันมีค่าเกินกว่า ที่จะสูญเสียไป เพียงเพราะความเข้าใจผิด ฉะนั้น อย่าให้ความคิดผิดๆ ที่ทำให้เรา และอีกฝ่ายเข้าใจผิดกัน จนกลายเป็นชนวน ของจุดจบความสัมพันธ์

ข้อที่ 9. รู้จักปล่อยวางกับความโกรธ และจงมีความรัก มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น มีคำกล่าวว่า “ความโกรธ คือ ยาพิษ ที่เรากลืนลงคอตัวเอง เพื่อหวังฆ่าคนอื่น” ซึ่งความหมาย ก็คือ เมื่อเราโกรธ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน ที่ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว และกล้ามเนื้อก็จะเกร็ง ความดันโลหิตก็จะสูงขึ้น ถ้ามันเกิดเพียงชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็ดับ มันก็จะไม่เป็นอันตรายมากนัก แต่ถ้าเรา มีอารมณ์โกรธ แค้นฝังลึกอยู่ในจิตใจตลอดเวลา มันก็จะส่งผลร้าย ต่อร่างกายในระยะยาว และเมื่อเราโกรธแค้นใครบางคน ก็แสดงว่า ไม่เพียงแค่เรากำลังทำร้ายตัวเอง แต่กลับปล่อยให้คนๆ นั้น มาควบคุมสภาพอารมณ์ของเราอีกด้วย ฉะนั้น สิ่งที่เราควรทำ ก็คือ ปล่อยวางกับความโกรธ จงอย่าไปยึดมั่นเอาไว้ในใจ พยายามทำตัวเองให้มีความสุข มีความรัก และมีความปรารถนาดี ต่อผู้อื่นอยู่เสมอ

ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา หากมีใครบางคน มาทำสิ่งไม่ดีกับเรา ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ และปฏิกิริยาแรกที่เรามี นั่นก็คือ เราจะรู้สึกโกรธคนคนนั้น แต่เราเองก็สามารถ จะควบคุมอารมณ์โกรธ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรกได้ ด้วยการบอกตัวเองว่า “เราทั้งหลาย ล้วนเป็นมนุษย์ปุถุชน ที่มีทั้งความรัก ความโลภ ความโกรธ และความหลง” แล้วก็หมั่นสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับคนๆ นั้น เพื่อเรียกสติของเรากลับคืนมา พร้อมกับแผ่พลังด้านดี ไปให้กับเขาด้วย ครับ

ขออนุโมทนาบุญ และกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ให้คติธรรม และข้อคิดในการดำเนินชีวิต และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำคลิบนี้ และรับชมคลิบนี้ สาธุครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ขันธ์ 5 คืออะไร ทำไมคนเป็นโรคซึมเศร้าต้องเรียนรู้ขันธ์ 5

สิริมงคล 8 ประการ เสริมบุญบารมี ให้ชีวิตรุ่งเรืองตลอดไป

มงคลชีวิต 4 ประการ หนทางสู่ความสำเร็จ

วิธีอ่านใจคน ศาสตร์เรียนรู้จุดอ่อน ด้วยจริต 6 ประการ

ฆราวาสธรรม 4 ประการ ธรรมะที่นำพาชีวิตให้ร่ำรวย